วัดโพธิ์ชัย ตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2360 เดิมชื่อ “วัดผีผิว” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “วัดโพธิ์ชัย” เนื่องจากเมื่อก่อนภายในวัดมีต้นโพธิ์ที่ใหญ่โตมาก ซึ่งเชื่อว่าต้นโพธิ์เป็นต้นไม้มหามงคล เป็นวัดเก่าแก่นับอายุได้ประมาณ 200 กว่าปี ไม่ทราบนามผู้สร้าง
ประวัติหลวงพ่อพระใสตามตำนานเชื่อว่า พระราชธิดาของพระเจ้าไชยราช กษัตริย์แห่งล้านช้าง 3 พระองค์ “สุก เสริม ใส” ได้มีพระราชประสงค์อยากจะสร้างพระพุทธรูปประจำพระองค์ขึ้น เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตจากพระราชบิดา ให้ช่างหล่อพระพุทธรูปจากทองสีสุก (โลหะสัมฤทธิ์ ที่มีทองคำเป็นส่วนผสมหลัก) แล้วขนาดพระนามพระพุทธรูปตามพระนามของแต่ละพระองค์ว่า “พระสุก พระเสริม และพระใส” เพื่อความเป็นสิริมงคลในการทำพิธีหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นั้น พระ เณร พร้อมฆราวาส ช่วยกันทำการสูบเตาหลอมทองอยู่ตลอดถึง 7 วัน ทองก็ยังไม่ละลาย ถึงวันที่ 8 เวลาเพล (11.00 น.) เหลือพระหนึ่งรูปกับเณรหนึ่งรูปสูบเตาอยู่ ได้ปรากฏมีชีปะขาวคนหนึ่งมาอาสาสูบเตาแทน พระและเณรจึงขึ้นไปฉันเพล ในวันนั้นญาติโยมต่างเห็นบรรดาชีปะขาวสูบเตาอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อหลังจากฉันเพลเสร็จ กลับไม่เห็นชีปะขาวแม้แต่คนเดียว เห็นแต่เพียงทองถูกเทลงในเบ้าทั้ง 3 เบ้า เรียบร้อยแล้ว อย่างน่าอัศจรรย์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ จากอาณาจักรล้านช้างสู่สยามประเทศ โดยแพไม้ไผ่ล่องผ่านมาทางลำน้ำงึมออกสู่แม่น้ำโขง เมื่อถึงบริเวณปากน้ำงึมเฉียงกับบ้านหนองกุ้ง เมืองหนองคาย (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอโพนพิสัย) ได้เกิดพายุใหญ่พัดกระหน่ำ ทำให้แพที่ประดิษฐานพระสุกแตก องค์พระสุกแหกแพจมลงในแม่น้ำโขง ปัจจุบันเรียกสถานที่นั้นว่า “เวินแท่น หรือเวินพระสุก หรือเวินสุก” ส่วนพระเสริมและพระใส ได้อัญเชิญมาถึงเมืองหนองคายอย่างปลอดภัย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใสอัญเชิญประดิษฐานอยู่ที่วัดหอก่อง ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้อัญเชิญพระเสริมและพระใส ไปยังพระนคร ครั้งนั้นกล่าวกันว่าพระใสแสดงปาฏิหาริย์ เกวียนที่ประดิษฐานพระใสหักลงตรงหน้าวัดโพธิ์ชัย ซ่อมแล้วก็หักอีก วัวลากเกวียนไม่ยอมเดิน ทั้งเชิญและบวงสรวงก็ไม่เป็นผล สุดท้ายจึงอัญเชิญพระใสประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัย (วัดอารามหลวง ชั้นตรี) ส่วนพระเสริม ได้อัญเชิญไปกรุงเทพมหานคร
ช่วงมหาสงกรานต์อีสานหนองคาย วันที่ 13 – 18 เมษายน ของทุกปี ทางวัดจัดให้มีพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถ แห่ไปรอบเมืองหนองคายให้ประชาชนได้สรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล และอัญเชิญหลวงพ่อพระใสประดิษฐานยังศาลาพลับพลา ใปจนถึงวันที่ 18 เมษายน ก็จะอัญเชิญกลับขึ้นประดิษฐานยังพระอุโบสถเช่นเดิม